พระธาตุดอยสุเทพเป็นวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนดอยสุเทพ ใกล้กับตัวเมืองเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวที่มาเชียงใหม่ครั้งแรกมักจะมาเที่ยวชม และไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคล ภายในวัดมีเจดีย์ทรงเชียงแสน ฐานสูงย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยมปิดด้วยทองจังโก 2 ชั้น อายุมากกว่า 500 ปี
ทางขึ้นไปยังวัดต้องเดินผ่านบันไดนาคกว่า 300 ขึ้น หรือจะขึ้นไปโดยรถรางไฟฟ้าก็ได้ เมื่อขึ้นไปถึงวัดแล้วจะต้องถอดรองเท้าไว้ จากนั้นถึงเข้าไปยังตัววัดด้านในได้ ด้านในของวัดมีเจดีย์ตั้งอยู่ตรงกลางเดินได้โดยรอบ นักท่องเที่ยวมักจะไหว้พระและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ที่บริเวณลานวัด เป็นจุดชมวิว มองเห็นเมืองเชียงใหม่และสนามบินเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจน
ตามประวัติแห่งดอยสุเทพนั้นเชื่อกันว่า เดิมภูเขาแห่งนี้เป็นที่อยู่ของฤาษีนามว่า "สุเทวะ" ซึ่งตรงกับคำว่าสุเทพอันเป็นที่มาของชื่อดอยสูงแห่งนี้ ส่วนวัดพระธาตุดอยสุเทพนั้นสร้างขึ้นเมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 19 ในสมัยพระเจ้ากือนาธรรมิกราช เจ้าหลวงเมืองเชียงใหม่องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์มังราย เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่ได้ทรงอัญเชิญมาจากเมืองศรีสัชนาลัย
วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร หรือ วัดโชติการาม เป็นพระอารามหลวงเก่าแก่ของเชียงใหม่ ที่กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะแบบล้านนาของศิลปินรุ่นหลัง โดยภายในวัดนั้น มีสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจมากมาย น่าชม
1. พระวิหารหลวงทรงล้านนา ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลาง วิหารหลังนี้ เจ้าคุณอุบาลี คุณปรมาจารย์ และเจ้าแก้วนวรัฐเป็นผู้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2471 ภายในประดิษฐานพระประธานพระอัฎฐารส ปางประธานอภัย ตามศิลปะแบบเชียงใหม่ตอนต้นที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะปาละ (อินเดีย) หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ สูง 18 ศอก ส่วนด้านหน้าประตูทางเข้าวิหาร มีบันไดนาคเลื้อยใช้หางเกี่ยวกระหวัดขึ้นไปเป็นซุ้มประตูวิหารงดงามยิ่ง นาคคู่นี้เป็นฝีมือเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่เดิม และได้ชื่อว่าเป็นนาคที่สวยงามที่สุดของภาคเหนือ
2. เจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นในรัชกาลพระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย ( พ.ศ. 1913-1954) ต่อมาพระยาติโลกราชโปรดฯ ให้ช่างขยายเจดีย์ให้สูงและกว้างกว่าเดิม จนแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2024 และอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานระหว่าง พ.ศ. 2011-2091 เป็นเวลานานถึง 80 ปี ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2088 สมัยพระนางจิระประภา ได้เกิดแผ่นดินไหว ทำให้ยอดเจดีย์หักโค่นลง ปัจจุบันเจดีย์องค์นี้มีความสูงคงเหลือ 40.8 เมตร ฐานกว้างด้านละ 60 เมตร
3. เสาอินทขิล หรือ เสาหลักเมือง ที่สร้างขึ้นเมื่อครั้งพ่อขุนเม็งรายมหาราชสร้างเมืองเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 1839 ประดิษฐานอยู่ในวิหารจตุรมุขทรงไทยหลังเล็ก ๆ เสาอินทขิลนี้สร้างด้วยไม้ซุงต้นใหญ่ ฝังอยู่ใต้ดิน ทุกปีในวันแรม 12 ค่ำเดือน 8 (เหนือ) หรือประมาณเดือนพฤษภาคมจะมีงาน "เข้าอินทขิล" เพื่อฉลองหลักเมืองนั่นเอง - สิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น วิหารบูรพาจารย์ วิหารพระอาจารย์มั่น ศาลารายประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ หอธรรมและพิพิธภัณฑ์ และศาลยักษ์กุมภัณฑ์